นิติธร ปิลวาสน์
ได้กล่าวเกี่ยวกับการเรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า
ไว้ว่า
การเรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า (Learning with the Five
Senses) หมายถึง การจัดกิจกรรมประจำวันทั้ง 6 ตามตารางการจัดกิจกรรมประจำวันระดับปฐมวัย เพื่อให้เด็กได้
เรียนด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทางตาในการมองและการสังเกต
เรียนรู้ด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทางหูในการได้ยินหรือฟังเสียงต่างๆ
เรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสทางร่างกายในการสัมผัส
หยิบจับสิ่งต่างๆ
เรียนรู้รสชาติสิ่งต่างๆด้วยการใช้ประสาทสัมผัสลิ้นในการชิมรส
และเรียนรู้กลิ่นต่างๆจากการใช้ประสาทสัมผัสจมูกในการดมกลิ่น
เนื่องจากเด็กปฐมวัยเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัวด้วยการใช้สายตาในการมองและการสังเกต
การสัมผัสสิ่งต่างๆเพื่อให้รู้ว่านุ่มหรือแข็ง ขรุขระหรือเรียบ
ด้วยการใช้มือและอวัยวะทางกายในการสัมผัสจับต้อง การรับรู้กลิ่นต่างๆว่า
หอมหรือเหม็นด้วยการใช้จมูกในการดมกลิ่น
การฟังเสียงต่างๆว่าไพเราะน่าฟังหรือเสียงดังรบกวนด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทางหู
และการรับ รู้เกี่ยวกับรสชาติอาหารต่างๆว่า หวาน เปรี้ยว เค็ม ขม
หรือเฝื่อนด้วยการใช้ลิ้นชิมรส
การเรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าเป็นการสำรวจสิ่งต่างๆเพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนาทักษะทางด้านสติปัญญา
เช่น ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ทักษะพื้น ฐานทางวิทยาศาสตร์ ทักษะทางภาษา เป็นต้น
https://www.gotoknow.org/posts/562547 ได้รวบรวมเกี่ยวกับเรื่อง การใช้ประสาทสัมผัสในเด็กปฐมวัย
ไว้ว่า
'รูป รส กลิ่น เสียง กายสัมผัส' หรือประสาทสัมผัสทั้ง 5 เป็นเครื่องมือสำคัญ ในการเรียนรู้ของมนุษย์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กในระดับปฐมวัย
จำเป็นต้องได้รับการฝึกใช้ประสาทสัมผัสดังกล่าว
เพื่อเตรียมความพร้อมในการศึกษาเรียนรู้ในระดับต่อไป
กิจกรรมการเรียนรู้เรื่องประสาทสัมผัสทั้ง 5 สำหรับเด็กวัยอนุบาลถึงประถม 1 เพื่อฝึกการใช้ประสาทสัมผัสต่างๆ
และเรียนรู้ถึงการทำงานของ ตา หู จมูก ปาก และมือ ซึ่งเป็นอวัยวะของประสาทสัมผัสเหล่านี้
การรู้จักใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 อย่างเต็มศักยภาพ จะนำเด็กไปสู่การเรียนรู้สรรพสิ่งต่างๆ
อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนด้วยวิธีแบบวิทยาศาสตร์
ที่เด็กจะต้องรู้จักสังเกตด้วยตา หู จมูก ลิ้น และกายสัมผัส
กิจกรรม 10 รูปแบบ ที่เต็มไปด้วยความสนุกและเพลิดเพลินต่อไปนี้
จะเป็นจุดเริ่มต้นในการนำเด็กไปสู่การฝึกฝนการใช้ประสาทสัมผัสของตนเอง
โดยครูสามารถเลือกใช้บางส่วนหรือทั้งหมด หรืออาจนำไปประยุกต์ดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพของเด็กและโรงเรียน
อะไรอยู่ในกล่อง การนำสิ่งของชนิดต่างๆ
ใส่ไว้ในกล่อง แล้วให้เด็กทายว่าของในกล่องคืออะไร
เป็นการทดลองเพื่อฝึกประสาทสัมผัสในส่วนของการได้ยิน กิจกรรมนี้ทำได้ง่ายๆ
แต่สนุกสนานมากสำหรับเด็ก เพียงแค่เตรียมกล่องเปล่า กระป๋อง
หรืออุปกรณ์สำหรับบรรจุสิ่งของต่างๆ
จากนั้นใส่สิ่งของเข้าไปในกล่องโดยไม่ให้เด็กเห็น เขย่ากล่อง แล้วให้เด็กแต่ละคนทายว่าอะไรอยู่ในกล่องด้วยการเดาจากเสียงที่ได้ยิน
ครูอาจให้เด็กจับคู่แล้วสลับกันถามตอบก็ได้
กลิ่นอะไรเอ่ย
กิจกรรมนี้จัดขึ้น เพื่อกระตุ้นให้เด็กใช้ประสาทสัมผัสการรับกลิ่น
โดยให้วางก้อนสำลีไว้ในถ้วย จากนั้นหยดน้ำที่ผสมกลิ่นต่างๆ
ลงแต่ละถ้วย เช่น กลิ่นวนิลา ส้ม มะนาว กาแฟ
หรือกลิ่นอะไรก็ได้ที่ปลอดภัยในการสูดดม ให้เด็กดมกลิ่นในแต่ละถ้วย
แล้วบอกว่าเป็นกลิ่นอะไร
อะไรหายไป เกมนี้ส่งเสริมการใช้สายตาหรือการมองเห็น
เด็กๆ สามารถเล่นเกมนี้ได้ง่าย เพียงแค่ครูย้ายสิ่งของออกจากห้องเรียนในขณะที่เด็กไม่เห็น
แล้วให้เด็กแต่ละคนค้นหาสิ่งของที่หายไปจากห้อง
โดยครูคอยบอกใบ้ให้ว่าของที่หายไปมีลักษณะอย่างไร เช่น ทรงกลม สี่เหลี่ยม
สามเหลี่ยม หรือมีลักษณะอื่นๆ แล้วให้เด็กนึกทบทวนคำตอบจากภาพที่เคยเห็น
ชอบโอวัลตินหรือไมโล เป็นการทดสอบประสาทสัมผัสลิ้น
เพียงแค่ให้เด็กดื่มเครื่องดื่มประเภทเดียวกัน แต่ต่างยี่ห้อ เช่น โอวัลติน
และไมโล โดยไม่ให้เด็กบอกว่าชอบโกโก้ยี่ห้อไหนมากกว่ากันก่อนที่จะได้ลิ้มลองรสชาติที่แท้จริง
ตาบอดสี อาการตาบอดสีถ่ายทอดทางพันธุกรรม
เกิดจากความบกพร่องในการทำงานของ เรตินาที่อยู่ในดวงตา ส่วนใหญ่จะเกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ประมาณกันว่า ผู้ชาย 10 คน มี 1 คน
ที่มีโอกาสเกิดอาการตาบอดสี ในขณะที่เกิดกับผู้หญิงมีจำนวนน้อย
ครูสามารถทดสอบว่าเด็กคนใดมีอาการตาบอดสีหรือไม่ ด้วยการให้นักเรียนมองแผ่นภาพ ซึ่งประกอบด้วยรูปวงกลม ดาว และสี่เหลี่ยม ดังตัวอย่าง โดยให้รูปทรงต่างๆ
เป็นสีส้ม ส่วนพื้นเป็นสีเขียว ถ้าเด็กคนใดไม่สามารถบอกได้ว่าในแผ่นภาพนั้นมีรูปอะไรบ้าง
แสดงว่าเด็กคนนั้นตาบอดสี
ซึ่งครูควรให้การเอาใจใส่เป็นพิเศษและจัดการเรียนให้เหมาะสมกับเด็ก
มีอะไรอยู่ในถุง เป็นการฝึกใช้ประสาทสัมผัสในส่วนของกายสัมผัส
โดยใส่สิ่งของที่มีผิวสัมผัสอ่อนนุ่ม หยาบ
ขรุขระ ลื่น หรืออื่นๆ ในถุงกระดาษ
ส่งถุงไปรอบๆ ห้อง
ให้เด็กแต่ละคนล้วงมือลงไปสัมผัสสิ่งของในถุงโดยห้ามมอง แล้วเดาว่าเป็นอะไร เมื่อเด็กทุกคนได้สัมผัสสิ่งของในถุงจนครบ
เขียนคำตอบที่เด็กแต่ละคนทายบนกระดาน
ก่อนจะเฉลยว่าอะไรอยู่ข้างในถุงกระดาษแต่ละใบ
ภาพลวงตา ภาพที่มองเห็นเชื่อได้หรือไม่
เพราะบางครั้งอาจเป็นภาพลวงตา
การทดสอบประสาทสัมผัสทางตาเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับเด็ก ทำได้โดยการให้เด็กมองแผ่นภาพรูปช้างหรือรูปเส้นตรงดังตัวอย่าง
แล้วให้ตอบว่าช้างมีกี่ขา และเส้นตรงเส้นใดยาวกว่า ซึ่งแต่ละคนมองเห็นต่างกัน
จากนั้นครูจึงเฉลยว่าช้างมี 4 ขา
ส่วนเส้นตรงทั้งสองเส้นยาวเท่ากัน
สร้างสรรค์เครื่องดนตรี กิจกรรมนี้จะช่วยทดสอบประสาทสัมผัสการได้ยินและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
ครูให้เด็กตั้งวงดนตรีขึ้นมา ออกแบบและประดิษฐ์เครื่องดนตรีเป็นของตนเอง
รวมทั้งร้องเพลงให้เพื่อนร่วมห้องฟัง เด็กแต่ละกลุ่มอาจสร้างเครื่องดนตรีง่ายๆ
ที่ทำจากขวดแก้ว กระป๋องโลหะ หรือแผ่นไม้
การจัดกิจกรรมนี้ควรปล่อยให้เด็กทำเต็มความสามารถ โดยไม่จำกัดเวลา
อักษรเบรลล์ อธิบายให้เด็กฟังว่าคนตาบอดใช้อักษรเบรลล์อย่างไร
พร้อมกับเชิญชวนให้เด็กๆ ออกแบบระบบการสื่อสารสำหรับคนตาบอด โดยกำหนดหัวข้อการออกแบบไว้ว่า ระบบที่ออกแบบมีการทำงานอย่างไร
และมีการใช้งานแตกต่างจากอักษรเบรลล์อย่างไร
กิจกรรมนี้จะช่วยฝึกเด็กในเรื่องของการสัมผัส
ความรู้สึกผ่านสายตา
ถึงแม้ว่าเด็กไม่สามารถจับต้องสิ่งที่เห็นในรูปภาพ แต่การจินตนาการจะช่วยเติมเต็มช่องว่างส่วนนี้ของเด็ก ได้
โดยครูอาจให้เด็กดูภาพผลไม้ ดอกไม้ เครื่องดนตรี
อาหาร หรือภาพอื่นๆ
แล้วให้เด็กบรรยายรูปผ่านสายตาให้ครบทุกประสาทสัมผัส เช่น เมื่อเด็กเห็นภาพผลส้ม
เด็กอาจบรรยายว่าเป็นสิ่งของที่มีลักษณะกลม ผิวเรียบลื่น
กลิ่นส้ม รสชาติเปรี้ยวหวาน มีสีเหลืองหรือเขียวปนเหลือง
มีเสียงจี๊ดจ๊าด เป็นต้น
ภายหลังที่เด็กได้ฝึกทักษะและรู้จักหน้าที่ของประสาทสัมผัสส่วนต่างๆ
ดีพอสมควรแล้ว ให้ครูจัดกิจกรรมที่เรียกว่า 'บทกวีแห่งความรู้สึก' ขึ้น
เพื่อทดสอบความเข้าใจและความสามารถในการใช้ประสาทสัมผัสของเด็ก
โดยครูแต่งบทกลอนเรื่อง "ความสุข" ที่โยงเข้ากับเรื่องประสาทสัมผัสทั้ง 5 เขียนแล้วอ่านให้เด็กฟัง
สรุป
การเรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า คือ
เรียนด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทางตาในการมองและการสังเกต
เรียนรู้ด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทางหูในการได้ยินหรือฟังเสียงต่างๆ
เรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสทางร่างกายในการสัมผัส หยิบจับสิ่งต่างๆ
เรียนรู้รสชาติสิ่งต่างๆด้วยการใช้ประสาทสัมผัสลิ้นในการชิม
และเรียนรู้กลิ่นต่างๆจากการใช้ประสาทสัมผัสจมูกในการดมกลิ่น
'รูป รส กลิ่น เสียง กายสัมผัส' หรือประสาทสัมผัสทั้ง 5 เป็นเครื่องมือสำคัญ
ในการเรียนรู้ของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กในระดับปฐมวัย
จำเป็นต้องได้รับการฝึกใช้ประสาทสัมผัสดังกล่าว
เพื่อเตรียมความพร้อมในการศึกษาเรียนรู้ในระดับต่อไป
กิจกรรมการเรียนรู้เรื่องประสาทสัมผัสทั้ง 5 สำหรับเด็กวัยอนุบาลถึงประถม 1 เพื่อฝึกการใช้ประสาทสัมผัสต่างๆ
และเรียนรู้ถึงการทำงานของ ตา หู จมูก ปาก และมือ ซึ่งเป็นอวัยวะของประสาทสัมผัสเหล่านี้
การรู้จักใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 อย่างเต็มศักยภาพ จะนำเด็กไปสู่การเรียนรู้สรรพสิ่งต่างๆ
อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนด้วยวิธีแบบวิทยาศาสตร์
ที่เด็กจะต้องรู้จักสังเกตด้วยตา หู จมูก ลิ้น และกายสัมผัส
ที่มา
นิติธร ปิลวาสน์ [online] http://taamkru.com/th/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2/ .การเรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า. เข้าถึงเมื่อ 15 กรกฎาคม 2558.
https://www.gotoknow.org/posts/562547 . การใช้ประสาทสัมผัสในเด็กปฐมวัย
.เข้าถึงเมื่อ 15 กรกฎาคม 2558.